ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2023-2024 หลังกลับมาจากเกมทีมชาติ เกมนัดวันเสาร์ วูล์ฟแฮมป์ตัน เปิดบ้านพบ ลิเวอร์พูล
ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2023-2024 นัดที่ 5
เสาร์ที่ 16 ก.ย. 2566
(3) วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ ลิเวอร์พูล (4)
สนาม: โมลินิวซ์ กราวด์ เวลาคิกออฟ : 18.30 น.
ผู้ตัดสิน : ไมเคิล โอลิเวอร์ ผู้ตัดสิน VAR :พอล เทียร์นีย์
ผลงานการพบกันในฤดูกาลที่ผ่านมา
2 มี.ค.2566 ลิเวอร์พูล 2-0 วูล์ฟแฮมป์ตัน (พรีเมียร์ลีก)
4 ก.พ.2565 วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-0 ลิเวอร์พูล(พรีเมียร์ลีก)
วูลฟ์แฮมป์ตัน
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
3 ก.ย.2566 แพ้ คริสตัล พาเลซ 3-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
30 ส.ค.2566 ชนะ แบล็คพูล 5-0 (เหย้า) ลีก คัพ
26 ส.ค.2566 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
19 ส.ค.2566 แพ้ ไบรท์ตัน 1-4 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
15 ส.ค.2566 แพ้ แมนฯยู 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
สภาพทีมวูลฟ์แฮมป์ตัน
กุนซือ แกรี่ โอนีล พาทีมบุกแพ้ คริสตัล พาเลซ 2-3 ก่อนพักเบรกทีมชาติ เกมนี้ต้องรอทดสอบความฟิตของ ฮวาง ฮี-ชาน กองหน้าเกาหลีใต้ที่เจ็บในเกมบุกเฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 พร้อมเบียดตัวจริง ทอมมี่ ดอยล์ กองกลางดาวรุ่งที่ยืมตัวมาจาก แมนฯ ซิตี้ ลุ้นประเดิมเกมแรกในวันนี้ ด้าน ซาซ่า คาลาจด์ซิซ อาจได้สตาร์ตในแนวรุกคู่กับ ฟาบิโอ ซิลวา หาก มาเตอุส กุนญ่า ยังล้าจากการกลับมาจากการเล่นให้ทีมชาติบราซิล ส่วน โจ ฮอดจ์ ดาวรุ่งยังต้องใช้เวลาอีกระยะในการพักฟื้นอาการเจ็ย
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
วูลฟ์แฮมป์ตัน (4-4-2) : โชเซ่ ซา – เนลสัน เซเมโด้, เคร็ก ดอว์สัน, แม็กซ์ คิลแมน, รายาน เอต-นูรี่ – ปาโบล ลซาราเบีย, ชูเอา โกเมส, มาริโอ เลอมิน่า, เปโดร เนโต้ – ซาซ่า คาลาจด์ซิซ , ฟาบิโอ ซิลวา
ลิเวอร์พูล
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
3 ก.ย.2566 ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-0 (เหย้า)พรีเมียร์ลีก
27 ส.ค.2566 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
19 ส.ค.2566 ชนะ บอร์นมัธ 3-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
13 ส.ค.2566 เสมอ เชลซี 1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
8 ส.ค.2566 ชนะ ดาร์มสตัด 3-1 (เหย้า) อุ่นเครื่อง
สภาพทีมลิเวอร์พูล
เจอร์เก้น คล็อปป์ บอสใหญ่ ลิเวอร์พูล เกมนี้จะไม่มี เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังกัปตันทีมที่ถูกไล่ออกในเกมพลิกกลับมาชนะ นิวคาสเซิ่ล โดยจะถูกแบนเป็นเกมสุดท้ายจากทั้งหมด 2 นัด โดยเป็น โจเอล มาติป ที่ลงไปยืนแทนอีกครั้ง เกมรุกต้องลุ้นว่า ดาร์วิน นูนเญซ จะฟิตทันหรือไม่หลังมีอาการบาดเจ็บติดตัวมาจากการกลับไปรับใช้ทีมชาติอุรุกวัย ในเกมฟุตบอลโลก 2026 แนวรุกใช้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ประสานงานกับ ดิโอโก้ โชต้า ด้าน วาตารุ เอ็นโด แข้งซามูไร ลุ้นแย่งพื้นที่ตัวจริงกับ เคอร์ติส โจนส์ และ โคดี้ กัคโป โดยมี ไรอัน กราเวนเบิร์ช กองกลางตัวใหม่ที่เพิ่งย้ายมาจาก บาเยิร์น มิวนิค เบียดลุ้นประเดิมเช่นกัน ส่วน อลีสซง เบ็คเกอร์ (บราซิล), อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (อาร์เจนตินา) และ หลุยส์ ดิอาซ (โคลอมเบีย) แม้เดินทางกลับมาจากการคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 โซนอเมริกาใต้ แต่คาดว่าจะลงสนามได้อย่างไร้ปัญหา ในรายของ ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ สเตฟาน บายเซติช ยังคงอยู่ระหว่างฟื้นฟูสภาพความฟิตต่อไป ส่วน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในการเล่นทีมชาติอังกฤษ ไม่จะสมบูรณ์ทันเกมนี้
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, โจ โกเมซ, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – โดมินิค โซโบซไล, วาตารุ เอ็นโด , เคอร์ติส โจนส์ – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โคดี้ กัคโป, ดิโอโก้ โชต้า
ความน่าจะเป็นของเกม
แม้ ขุมกำลังของลิเวอร์พูล จะไปรับใช้ทีมชาติอยู่หลายราย แต่ด้วยศักภาพ ความสามารถภาพรวมในทีมนั้นดีกว่าอย่างมาก การไม่มี เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ในแนวรับถือว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร วูลฟ์แฮมป์ตัน ที่สู้ได้ เพราะมีปัจจัยการเล่นในบ้านเท่านั้น แต่หากมาเปิดหน้าแลกใส่แล้ว ในระยะยาวของเกม ไม่น่าจะยื้อและรับมือลูกมือของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้
สกอร์ที่คาด
ลิเวอร์พูล ชนะ 3-1
เกร็ดน่าสนใจก่อนเกม
-พบกันในพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 22 นัด วูลฟ์แฮมป์ตัน ชนะ 4 ลิเวอร์พูล ชนะ 22 เสมอ 3
-ลิเวอร์พูลชนะ 12 จาก 13 เกมพรีเมียร์ลีกล่าสุดที่พบกับวูล์ฟแฮมป์ตัน ยกเว้นเกมเดียวที่คือการพบกันนัดแรกของฤดูกาลที่แล้ว ที่ลิเวอร์พูล บุกมาแพ้ที่โมลินิวซ์ กราวด์ 0-3 ซึ่งการชนะของวูล์ฟแฮมป์ตันในเกมนี้ถือเป็นการยุติการพ่ายแพ้ในบ้านเกมลีก 6 นัดติดต่อกันให้กับหงส์แดง ซึ่งครั้งล่าสุดที่วูล์ฟแฮมป์ตันชนะลิเวอร์พูลที่โมลินิวซ์ คือระหว่หว่างเดือนกุมภาพันธ์ 1980 -เดือนสิงหาคม 1981
-หงส์แดง ไม่ชนะเลยในการเตะวันเสาร์ในช่วง 12.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดย 6 นัดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว (เสมอ 3 แพ้ 3) ยิงได้เพียง 3 ประตูจาก 6 นัดแม้จะมีความพยายามยิง 83 ครั้งก็ตาม
-วูล์ฟแฮมป์ตัน ชนะเพียง 2 เกมจาก 37 เกมพรีเมียร์ลีกหลังสุด และเสียอย่างน้อยหนึ่งประตู (เสมอ 8 แพ้ 27) โดยเป็นการชนะเอฟเวอร์ตันและเซาธ์แธมป์ตัน 2-1 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว อีกทั้งยังไม่ชนะเลยในรอบ 14 นัดหลังสุดซึ่งไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้ (เสมอ 3 แพ้ 11)
-3 ประตูจาก 4 ของวูล์ฟแฮมป์ตันในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้มาจากตัวสำรอง ( ฮวาง ฮี-ชาน 2 ประตู แลซาซ่า คาลาจด์ซิซ) ซึ่งตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลที่แล้ว วูล์ฟแฮมป์ตัน ทำประตูในพรีเมียร์ลีกจากม้านั่งสำรองสูงสุด (29%)
-โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ลงเล่นนอกบ้านในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว 5 นัด แต่ไม่สามารถทำประตูได้ แม้ว่าจะทำ 6 แอสซิสต์จากการลงสนาม 4 นัดหลังสุดก็ตาม